English Version

แนวโน้มภาษาสำคัญที่ควรรู้แห่งศตวรรษที่ 21

บทความโดย: สมาคมโรงเรียนเอกชนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน

“One language sets you in a corridor for life.
Two languages open every door along the way.”

Frank Smith

             ดังคำกล่าวของ แฟร้งค์ สมิธ นักภาษาศาสตร์จิตวิทยา ที่ว่า “หนึ่งภาษาสร้างทางเดินให้ชีวิต สองภาษาเปิดประตูแห่งโอกาสทุกบานในเส้นทางชีวิตของคุณ ” โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเชื่อมต่อโลกทั้งใบเข้าด้วยกันแบบนี้ แน่นอนว่าข้อมูลข่าวสารและสื่อจากต่างประเทศย่อมผ่านตาเข้ามาให้เราได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ จนทำให้เราต้องสื่อสารเป็นภาษาอื่นมากขึ้น ความสามารถทางภาษาถือเป็นปัจจัยหลักในการติดต่อสื่อสาร และถือเป็นข้อได้เปรียบทางด้านการแข่งขันในตลาดแรงงานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวงการธุรกิจ การทูต การศึกษา สื่อบันเทิง การรักษาโรค วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ทางสมาคมฯจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของภาษาที่สำคัญตามสถาณการณ์โลกในปัจจุบัน มาให้ทุกท่านได้อ่านและทำความรู้จักกันมากขึ้น

             บนโลกใบนี้ มนุษย์เราสื่อสารกันด้วยภาษาที่แตกต่างกันกว่า 7,000 ภาษา แต่มีเพียง 12 ภาษาเท่านั้น ที่ถูกสื่อสารโดยคนเกินครึ่งโลก และใน 12 ภาษานั้น คือ ภาษาที่เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดสำหรับยุคดิจิตอล หรือในศตวรรษที่ 21 นี้ ซึ่งความสำคัญของแต่ละภาษาก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย อาทิเช่น สภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ใช้ภาษานั้น ๆ และเกณฑ์การจัดอันดับภาษา ก็ไม่ได้มีแค่เกณฑ์มาตรฐานเดียว ยกตัวอย่างเช่น ภาษาที่มีคนใช้เยอะที่สุดในโลก, ภาษาที่คนใช้เป็นภาษาแม่เยอะที่สุดในโลก ดังนั้นในบทความนี้เราใช้เกณฑ์การตัดสินที่หลากหลาย โดยแบ่งออกตามความสนใจ และเป้าหมายในแต่ละด้านของการเรียนรู้ภาษานั้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1. 3 อันดับแรกของภาษาที่คุณควรเรียนรู้หากคุณต้องการใช้ภาษานี้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทุกที่บนโลกใบนี้ (Chinese, Spanish, French)
            1.1 ภาษาจีน (Chinese) (All dialects 1.39 Billion Speaker)
ภาษาจีนเป็นภาษาที่ใช้พูดสื่อสารมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด มีผู้พูดภาษาจีนเป็นภาษาแรกถึง 1.39 พันล้านคน และถือได้ว่าเป็นภาษาที่ยากในการเรียนรู้เนื่องจากโทนเสียง และภาษาเขียนมีความซับซ้อน ภาษาจีน นอกจากเป็นภาษาราชการของประเทศจีนและไต้หวันแล้ว ยังถือเป็น 1 ใน 4 ภาษาราชการของประเทศสิงคโปร์ และยังเป็น 1 ใน 6 ภาษาทางการของสหประชาชาติ ประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
            1.2 ภาษาสเปน (Spanish) ( 389 Million Speakers)
ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้ครอบคลุมในพื้นที่ถึงสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา ซึ่งมีประชากรที่พูดภาษาสเปนได้รวมกันมากกว่า 389 ล้านคน และยังถือเป็นภาษาที่สองในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เพราะประชากรประมาณ 35 ล้านคนในสหรัฐฯ ใช้ภาษาสเปนในการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ภาษาสเปนยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ และธุรกิจระหว่างประเทศ
            1.3 ภาษาฝรั่งเศส (French) (118 Million Speakers)
เริ่มเข้าสู่ภาษาที่คนไทยเราน่าจะคุ้นเคยกันขึ้นมาบ้าง ภาษาฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในภาษายอดนิยมที่โรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา มักจะเปิดให้นักเรียนเลือกเรียนเป็นภาษาที่สาม และในปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ที่ 118 ล้านคน นอกจากนั้นแล้วฝรั่งเศสยังครองแชมป์อันดับ 7 ในด้านของเศรษฐกิจโลกจากการจัดอันดับของธนาคารโลก สำหรับปี พ.ศ. 2560 อีกด้วย

2. 3 อันดับภาษาที่เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจโลกในอนาคต ( Chinese, Hindi, Bengali)
            2.1 ภาษาจีน (Chinese) (All dialects 1.39 Billion Speaker)
ภาษาจีนเป็นภาษาที่ถือว่ามีคนพูดเป็นภาษาแม่ครองแชมป์อันดับหนึ่ง นอกจากจะมีประชากรที่พูดภาษานี้มากถึง 1.39 พันล้านคนแล้ว ในปัจจุบันประเทศจีนคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาภาษาเพื่อเรียนเสริม ภาษาจีนก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2050 จีนจะกลายเป็นประเทศผู้นำด้านเศรฐกิจที่อาจโค่นแชมป์ตลอดกาลอย่างสหรัฐอเมริกาก็เป็นได้
            2.2 ภาษาฮินดี (Hindi) (588 Million Speakers)
ปัจจุบันอินเดียกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 6 ของโลก แซงหน้าและ ผลักฝรั่งเศสถอยไปอยู่อันดับ 7 จากการจัดอันดับของธนาคารโลก สำหรับปี พ.ศ. 2560 และ คาดว่าจะกลาย มาเป็นอันดับที่ 2 ในอีก 30 ปีข้างหน้า (ประมาณปี ค.ศ. 2050) ที่เราอาจจะ ได้เห็นการเติบโตทาง เศรษฐกิจของอินเดียมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ใน อินเดีย อีกทั้งยังมีการใช้ภาษาฮินดีในวงการบันเทิง อย่างเช่น หนังบอลลีวูด (กลุ่มหนังที่สร้างใน เมืองมุมไบ โดยชาวอินเดีย) ที่ได้เจาะตลาดประเทศแถบตะวันตก จึงเป็นภาษาที่สำคัญสำหรับ การลงทุนในอนาคต และเป็นสาเหตุทำให้ภาษาฮินดีกลายเป็นภาษาที่มีคนพูดมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
            2.3 ภาษาเบงกาลี (Bengali) (250 Million Speakers)
ภาษาเบงกาลีเป็นภาษาที่พูดโดยประชากรของประเทศบังคลาเทศ และรัฐเบงกอล ตะวันตกในประเทศอินเดีย ภาษานี้มีคนใช้อยู่มากถึง 250 ล้านคน นับว่าเป็นภาษาที่สองที่ใช้ ในประเทศอินเดีย และเป็นภาษาที่ถูกใช้ทั่วโลกเป็นอันดับที่ 7 มีรายงานจาก Washington Post ว่าภายในปี 2050 ภาษาเบงกาลีจะกลายเป็นภาษาพูดที่ถูกใช้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกจากการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศอินเดีย

3. อันดับภาษาที่มีจำนวนประเทศที่ใช้เป็นภาษาพูดมากที่สุด ( English, Arabic, French)
            3.1 ภาษาอังกฤษ (English) (527 Million Speakers)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาอังกฤษคือภาษาที่สำคัญที่สุดอันดับหนึ่ง ปัจจุบันมีผู้ที่ใช้ ภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านคน นั่นจึงทำให้ภาษาอังกฤษครองแชมป์ภาษาที่ทรง อิทธิพลที่สุดแห่ง ศตวรรษที่21 ที่สำคัญไปกว่านั้น ภาษาอังกฤษคือภาษาราชการของ 3 ประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร นั่นจึง ทำให้ภาษาอังกฤษ คือสุดยอดภาษาที่สำคัญที่สุดในยุคนี้นั่นเอง
            3.2 ภาษาอาหรับ (Arabic) (467 Million Speakers)
ภาษาอาหรับเป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติและเป็นภาษาราชการในกลุ่ม 16 ประเทศของ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก คูเวต จอร์แดน อิสราเอล บาห์เรน ปาเลสไตน์ และ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสังเกตได้ว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางด้าน เศรษฐกิจน้ำมันโลกทั้งสิ้น และอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาษาอาหรับเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าสนใจ นั่นก็คือเป็นภาษาทางวรรณกรรมที่ใช้มาเป็นเวลากว่า 1,500 ปี และที่ใช้ในการละหมาดและขอ พรในศาสนาอิสลามอีกด้วย
            3.3 ภาษาฝรั่งเศส (French) (118 Million Speakers)
ภาษาฝรั่งเศสมีผู้ใช้อยู่กว่า 118 ล้านคนทั่วโลก ในวงการธุรกิจถ้าคุณมีทักษะภาษาฝรั่งเศส รับรองว่าคุณจะได้เปรียบคนอื่น ๆ แน่นอน เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ของ UK กว่า 49% กำลัง มองหาพนักงานที่สามารถใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส (อ้างอิงข้อมูลจาก British Council) นอกจากนี้ Forbes.com ยังมีรายงานอีกว่า คาดว่าภายในปี 2050 จะมีผู้ใช้ภาษา ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นกว่า 750 ล้านคน

4. 3 อันดับภาษาที่ใช้เป็นภาษาศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมโดยเฉพาะทางด้านวรรณกรรม (English, French, Russian)
            กลุ่มนักวิจัยนานาชาติได้ทำการวิเคราะห์การแปลหนังสือ 2.2 ล้านเล่มจากทั่วโลก ภายใต้โครการที่ชื่อว่า “UNESCO’s Index Translationum” ที่ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาษากลาง (Hub Languages) โดยนักวิจัยได้ระบุว่า หากหนังสือเหล่านั้นถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นภาษาที่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก พวกมันจะถูกแปลมาเป็นภาษากลางเสมอ ซึ่งสามารถสังเกตุได้จากภาพประกอบ ภาษากลางจะอยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างเส้นที่เชื่อมโยงมาจากหลากหลายภาษา ซึ่งถูกเน้นด้วยความกว้างและเข้มของเส้นที่โยงต่อกัน และผลของการวิจัยเผยให้เห็น 3 อันดับภาษาที่ทั่วโลกเลือกใช้ให้เป็นภาษากลางทางด้านวรรณกรรมและวัฒนธรรม ดังนี้
            4.1 ภาษาอังกฤษ (English) (527 Million Speakers)
            4.2 ภาษาฝรั่งเศส (118 Million Speakers)
            4.3 ภาษารัสเซีย (Russian) (254 Million Speakers)

             จากข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ทำให้เชื่อได้ว่า ไม่มีภาษาแห่งอนาคตเพียงเฉพาะภาษาใดภาษาหนึ่งเท่านั้น หากแต่การที่เราจะเลือกเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งนั้น ผู้เรียนภาษาจะต้องถามตนเอง และทำความรู้จักตนเองให้มาก เกี่ยวกับเป้าหมายและแรงจูงใจของตนเองก่อนที่จะตัดสินใจ

 

 

ขอบคุณข้อมูล :
10 อันดับภาษาที่ใช้พูดมากที่สุดในโลก สำหรับใครที่อยากเรียนภาษาอื่นเพิ่มควรศึกษาไว้!!
ภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกอยู่หรือไม่?
สุดยอด 10 ภาษา ที่นักเรียนไทยควรศึกษาไว้เพื่ออนาคตที่แสนสดใส
โลกนี้มีกี่ภาษา อยากรู้ต้องหาคำตอบ !
The future of language By Rick Noack September 24, 2015 in The Washington Post
เศรษฐกิจอินเดียขยับขึ้นสู่อันดับ6ของโลก...
Want To Know The Language Of The Future? The Data Suggests It Could Be...French